มหาวิทยาลัยมหิดล (อังกฤษ: Mahidol University; ตัวย่อ: MU) เดิมชื่อ University of Medicine[1] เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เน้นการสอนและการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ตั้งอยู่ในเขตพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และยังมีอีกหลายสถานที่ ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดอำนาจเจริญ
มหาวิทยาลัยมหิดลมีต้นกำเนิดมาจากคณะแพทยศาสตร์ (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลศิริราช) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2432 ก่อนถูกควบรวมเข้ากับโรงเรียนข้าราชการพลเรือน ก่อตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพร้อมเปลี่ยนสถานะเป็นคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเปลี่ยนชื่อเป็น คณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลศิริราช [7] ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 มีโรงเรียนแพทย์แยกจากกัน 4 แห่ง กำหนดให้เป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์[1] และในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนาม “มหิดล” ซึ่งเป็นพระนามของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร . อดุลยเดช วิกรม พระบรมราชชนก
ประวัติ มหาวิทยาลัยมหิดล
มหาวิทยาลัยมหิดล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงพยาบาลศิริราชในบริเวณพระราชวังบวรสถานภิมุข มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าวังหลัง[9] ทรงพระราชทานให้สร้างในภายหลังเมื่อ พ.ศ. 2432 คณะแพทยศาสตร์[10] โดยจัดการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตร 3 ปี ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระศรีพัชรรินทรา พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานเปิดอาคารคณะแพทยศาสตร์ จึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นโรงเรียนราชพญาาลัย
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสถาปนาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้จัดตั้งโรงเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏขึ้นเป็นคณะหนึ่งของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2460 [11] ภายใต้ชื่อ “คณะแพทยศาสตร์” ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ก่อนเปลี่ยนชื่อเป็น “คณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลศิริราช” ซึ่งได้รับการพัฒนาต่อยอดทางวิชาการโดยมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์[12] จนสามารถจัดอบรมจนได้รับประกาศนียบัตร[13] ] ที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[14]
เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2486 ได้มีการจัดตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล โดยแยกคณะแพทยศาสตร์และโรงพยาบาลศิริราชแยกแผนกทันตกรรมอิสระ แผนกเภสัชกรรมอิสระ และแผนกอิสระสัตวแพทยศาสตร์ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์ [15] สังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยการจัดตั้งคณะขึ้นหลายคณะ คณะที่ซ้ำซ้อนจึงถูกย้ายจากมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ คือ คณะแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คณะเภสัชศาสตร์และคณะทันตแพทยศาสตร์ ย้ายไปจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลนครเชียงใหม่ โอนไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่และคณะสัตวแพทยศาสตร์ โอนไปมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2512 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระราชทานชื่อนี้แก่มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นพระปรมาภิไธยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหิตลาธิเบศร์อดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก แทนชื่อเดิมของมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์[16] เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2550 มหาวิทยาลัยมหิดลได้เปลี่ยนรูปแบบการบริหารเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ[17] และในปี พ.ศ. 2551 มีแผนแม่บทที่จะพัฒนามหาวิทยาลัยมหิดลศาลายาให้เป็นเมืองมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยการปรับแนวปฏิบัติในการจัดการสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มความสำคัญและอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ [18] มหาวิทยาลัยยังได้จัดทำแผนการจัดการเชิงกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน พ.ศ. 2558-2562 โดยมีกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ การส่งเสริมการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ส่งเสริมสังคมคาร์บอนต่ำ และส่งเสริมความสัมพันธ์มิชชันนารีกับชุมชน
ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยแพทย์ตราสัญลักษณ์เมื่อยังเป็นมหาวิทยาลัยการแพทย์ ตราสัญลักษณ์เป็นวงกลม 2 ชั้น ภายในมีงูพันคบเพลิง วงนอกด้านบนเขียนว่า “อัตตานัง อุปมัม กาเร” ด้านล่างเขียนว่า “มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์”ต่อมาเมื่อได้รับพระราชทานนามว่า “มหาวิทยาลัยมหิดล” ได้เปลี่ยนชื่อเป็นตราวงกลมคู่ วงกลมด้านในมีพื้นหลังสีน้ำเงิน ตรงกลางมีตราแผ่นดินมหิดลสีเหลืองทอง ส่วนวงกลมชั้นนอกมีพื้นหลังสีขาว ตัวอักษรสีเหลืองทอง ด้านบนอ่านว่า “อัตตานัง อุปมามังการี” ด้านล่างเขียนว่า “อัตตานัง อุปมามังการี” “มหาวิทยาลัยมหิดล” คั่นด้วยตราสีเหลืองทอง[19] สัญลักษณ์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยดร. นันทวัน พรหมพลิน และก้อง สมิงชัย ออกแบบและออกแบบโดยได้รับอนุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่
คุณแม่ราชวงศ์ มิทรรุณ เกษมศรี สถาปนิกพิเศษสำนักพระราชวัง โดยเปลี่ยนตราไตรและพระมหามงกุฎให้เป็นแบบไทยและพระราชทานตราสัญลักษณ์แก่มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2512[20]
สีมหาวิทยาลัยเป็นสีน้ำเงิน พระราชทานจากสมเด็จพระศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2512[21]ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยคือต้นมหิดลกันภัย ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สยามบรมราชกุมารี กัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงพระราชทานเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2542
การศึกษา
มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดสอนระบบหน่วยกิต ขณะนี้มีการสอนและวิจัยทั้งหมด 629 วิชา[a] [42] ครอบคลุมทั้งวิทยาศาสตร์สุขภาพ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ ทั้งหลักสูตรไทยและนานาชาติ เป็นมหาวิทยาลัยที่สามารถผลิตนักศึกษาปริญญาเอกได้มากที่สุดในประเทศ[43] ในปี พ.ศ. 2548 มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีจำนวนนักศึกษาต่างชาติมากที่สุด[44] และในปี พ.ศ. 2549 มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award ประจำปี 2549 ประเภทวิสาหกิจบริการดีเด่น ในกลุ่มการศึกษานานาชาติของนายกรัฐมนตรี โดยพิธียกย่องให้เป็น การบริการที่ได้รับความนิยมสูงสุดในหมู่ชาวต่างชาติและมอบรางวัลเมื่อวันจันทร์ที่ 28 สิงหาคม 2549 ณ อาคารสันติไมตรี อาคารราชการ
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดลเปิดสอนใน 17 คณะ 6 วิทยาลัย 9 สถาบัน และ 3 วิทยาเขต และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยจากการจัดอันดับจากหน่วยงานจัดอันดับต่างๆ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในเก้ามหาวิทยาลัยวิจัยแห่งชาติในปี 2552 และยังเป็นสมาชิกของเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน (AUN)
บทความแนะนำ